หนังสือที่ลึกลับที่สุดในโลก

          ทุกท่านคิดว่าหนังสือที่ผลิตขึ้นมาให้คนได้อ่าน ได้ศึกษาและนำมาเรียนรู้ในตำราเรียนต่างๆ หลายเล่มมีความยากและไม่สามารถเข้าใจได้ง่ายๆใช่ไหม แต่เพียงแค่เรียนรู้ไม่นาน คนเราสามารถที่จะเข้าใจความหมาย และรู้ว่าทั้งข้อมูล ภาพ ตัวหนังสือเหล่านั้นได้ทั้งหมด แต่จะมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง เป็นหนังสือที่มีความน่าสนใจอย่างมาก หนังสือที่ลึกลับที่สุดในโลก แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนยังต้องส่ายหัว เพราะไม่สามารถที่จะไขรหัสลับที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้ได้ นั่นเป็นเพราะอะไร วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก และเรียนรู้เรื่องนี้พร้อมกัน 10 สถานที่ลี้ลับที่ถูกค้นพบ

ต้นกำเนิดของ หนังสือที่ลึกลับที่สุดในโลก

          สำหรับต้นกำเนิดของหนังสือเล่มนี้ ไม่มีใครสามารถบอกได้เลย ว่าถูกเขียนขึ้นเมื่อปีไหน รวมถึงความหมายและสิ่งที่มีอยู่ในหนังสือทั้งหมด ซึ่งเป็นการค้นพบจากนักนักค้าหนังสือเก่าคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวเมริกัน-รัสเซีย ที่มีชื่อว่า วิลฟริด เอ็ม. วอยนิช หรือ Wilfrid M.Voynich เป็นหนังสือที่แปลกมากๆตั้งแต่ถูกค้นพบ เนื่องจากในทุกหน้าที่อยู่ในหนังสือนี้ ไม่มีการระบุชื่อคนเขียน หรือว่าหัวข้อเอาไว้แต่อย่างใด ทำให้ไม่รู้ว่าคือหนังสืออะไรกันแน่ โดยมีรายละเอียดของหนังสือเล่มนี้ คือมีความกว้างและยาวเท่ากับ 6×9 นิ้ว หนา 1 ½ นิ้ว มีจำนวนหน้าที่ถูกเขียนเอาไว้ 240 หน้าแต่ก็ยังไม่ครบทั้งหมด เนื่องจากมีบางหน้าที่ขาดหายไป ทำให้ตัวหนังสือไม่สมบูรณ์ 100% แต่ก็ยังคงความลึกลับได้มากที่สุดด้วยเช่นกัน

หนังสือลึกลับที่ต้องหาผู้เชี่ยวชาญแปลความหมายหนังสือเล่มนี้

         สิ่งเหล่านี้เอานั้นทำให้ผู้ค้นพบหนังสือต้องประกาศตามหาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อมาดูหนังสือเล่นนี้ เพื่อแปลความหมายและศึกษาข้อความด้านใน รวมถึงรูปภาพต่างๆ แต่ทุกท่านเชื่อกันไหมล่ะ ว่าไม่มีใครสามารถที่จะถอดข้อมูลทุกอย่างในหนังสือเล่นนี้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือ ซึ่งหลังจากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญหลายๆคน ก็ยังไม่เข้าใจว่าใช้ภาษาอะไรในการเขียน ซึ่งไม่ใช่ภาษาละติน  ภาษาหรือที่พวกเขาจะสามารถแปลความหมายได้ เป็นภาษาที่ยังไม่ถูกค้นพบบนโลกนี้เลยด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าหนังสือเล่นนี้คือหนังสือเกี่ยวกับอะไร เพราะทุกอย่างที่เรามองเข้าไป คือสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นความลึกลับที่น่าสงสัย โดยมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนเดินทางเพื่อมาพิสูจน์ แต่ก็ต้องล้มเหลวยาวนานถึง 100 ปีมาแล้ว ได้เพียงแค่สันนิษฐานว่าเป็นหนังสือที่เกิดขึ้นสมัยราวๆศตวรรษที่ 15 หรือถูกเขียนขึ้นในช่วงเวลาประมาณปี 1450 – 1520 โดยอ้างอิงจากการดูภาพวาดในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งจะมีลักษณะที่อยู่ในช่วงเวลาที่ได้บอกไปนั่นเอง

หนังสือที่ลึกลับที่สุดในโลก ที่ไม่ได้มีแค่ตัวหนังสือ

เชื่อกันไหม ว่าหนังสือเล่มนี้นอกจากไม่ได้มีเพียงแค่ตัวหนังสือที่ยังไม่มีใครเข้าใจ แต่ละภาพที่ปรากฏอยู่บนนั้น เหมือนเป็นการจดบันทึกอะไรบางอย่าง ที่มีความหลากหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปผู้หญิงเปลือยแช่อยู่ในบ่อน้ำ โดยมีภาพเหมือนเส้นเลือดต่อลงมา ทำให้ผู้ที่เห็นรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ยังไม่สามารถแปลไขความสงสัยกับภาพเหล่านี้ได้ จนมีการตั้งแบ่งลักษณะพื้นฐานของหนังสือเล่นนี้ออกเป็น 5 กลุ่ม เป็นการคาดเดาว่าน่าจะเป็นหนังสือที่ใจจดบันทึงเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆโดยบันทึกเอาไว้จากคนที่ความชำนาญ และเก่งด้านการเขียน เพราะจากการดูตัวหนังสือเหล่านี้ เราจะเห็นได้เลยว่าไม่มีคำผิดเลยแม้แต่คำเดียว 

รวมถึงไม่พบความผิดพลาดที่เกิดจากการเขียนทุกหน้าเลยด้วย ซึ่งรายละเอียดกลุ่มต่างๆเอาไว้ตามความเข้าใจของผู้ที่ศึกษาเอาไว้เริ่มจากเป็นส่วนของพฤกษศาสตร์ ส่วนนี้จะมีรูปพืชพรรณ และสมุนไพรต่างๆจำนวน 130 หน้า ต่อมาคือส่วนของจักรวาลและดาราศาสตร์ ซึ่งมีจำนวนการวาดเอาไว้ถึงรวมกัน 32 หน้า ต่อด้วยส่วนของชีววิทยา เป็นการวาดภาพเกี่ยวกับอวัยวะต่างที่ดูแปลก มีจำนวนการเขียนไว้ 4 ภาพ ส่วนถัดมาก็คือเป็นภาพวาดคล้ายๆกลุ่มแรก แต่ว่าจะมีเหมือนการวาดภาพภาชนะที่ใช้ในร้านขายยาที่เรารู้จักกัน มีถึง 34 หน้า และกลุ่มสุดท้ายเหมือนกับเป็นกลุ่มสูตรยาต่างๆ ซึ่งมีจำนวนการเขียนย่อหน้าเอาไว้มากที่สุดถึง 365 ย่อหน้า หากนับรวมกับหน้าที่หายไปด้วย

ตำราเล่มนี้ได้มีการใช้รหัสรับเขียนไว้

“ภาษาโบราณนี้ใช้กันทั่วไปในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนช่วงยุคกลาง แต่เป็นภาษาพูด ไม่ใช่ภาษาเขียนของทางการอย่างภาษาละติน ทำให้มันสูญหายและตายไปในที่สุด” ดร. เชสเชียร์กล่าว “ตำรานี้ดูเหมือนเขียนด้วยรหัสลับ เพราะใช้สัญลักษณ์หลายแบบทั้งที่เราคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยมาเป็นตัวพยัญชนะและสระ ทั้งไม่มีการกำหนดใช้เครื่องหมายวรรคตอนโดยเฉพาะ”

คาดว่าจะมีการแปลเนื้อหากว่า 200 หน้าของตำราวอยนิชออกมาโดยละเอียดต่อไป ซึ่งในระหว่างนี้นักภาษาศาสตร์บางส่วนได้แสดงความสงสัยถึงวิธีการถอดรหัสของ ดร. เชสเชียร์ ว่ามีความถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่สรุปว่ามีภาษาโบราณอยู่เพียงภาษาเดียวที่เป็นต้นตระกูลของกลุ่มภาษาสมัยใหม่หลายภาษา

          ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความแปลก แต่น่าค้นหาความจริงเป็นอย่างมาก ยิ่งไม่มีใครเข้าใจความหมายและถอดรหัสเหล่านี้ได้ ก็ยิ่งทำให้หนังสือเล่นนี้กลายเป็นหนังสือที่ลึกลับที่สุดในโลกต่อไปเรื่อยๆ

เครดิต : themysteriousth.com

ติดตามข่าวสาร : เรื่องลี้ลับ เรื่องหลอน